ตั้งแต่
ถึง
ท่อเหล็ก หรือ ท่อแป๊บ คืออะไร ?
ท่อเหล็ก เป็นเหล็กรูปพรรณรีดร้อนชนิดหนึ่ง ที่มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า ท่อแป๊บ , ท่อแป๊บดำ , เหล็กหลอด , กลมดำ , ท่อดำ โดยเหล็กดำ (Black Steel Pipe) เป็นท่อที่มีลักษณะกลวง และยาว เป็นท่อที่ไม่ได้เคลือบสังกะสีและไม่เคลือบที่พื้นผิว เช่น สังกะสี หรือ สี ซึ่งความยาวที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กันก็คือ 6 เมตร (สามารถตัดได้ตามความต้องการ) ความทนทานของเหล็กชนิดนี้มีความทนทาน แต่ตัวเหล็กจะมีความเบา ท่อเหล็กดำยังสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังนี้
ท่อเหล็กดำแบบมีตะเข็บ : ท่อเหล็กดำ หรือ ที่นิยมเรียกกว่าท่อเหล็ก จะเป็นเหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น มีการนำแผ่นเหล็กมาจัดให้ได้ขนาดตามที่ต้องการ และนำไปม้วนเป็นท่อแล้วเชื่อม ซึ่งท่อเหล็กดำแบบมีตะเข็บจะมีความทนต่อแรงดันและความแข็งแรงน้อย นิยมใช้กับงานก่อสร้างทั่วไป
ท่อเหล็กดำแบบไม่มีตะเข็บ : เป็นท่อเหล็กที่ถูกรีดด้วยความร้อนสูง ภาคตัดขวางเป็นวงกลมแต่มีรูตรงกลางที่กลวง มีความแข็งแรงมาก ทนต่อแรงดันมากกว่าท่อเหล็กดำที่มีตะเข็บ
การนำไปใช้งาน ท่อเหล็ก
เนื่องจากท่อเหล็กมีความแข็งแรง และอายุการใช้งานที่ยาวนาน จึงนิยมนำไปใช้กับงานท่อสำหรับอาคารที่มีความสูง
เหล็กท่อกลมทนต่อแรงลม และแรงเสียดทานได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะสำหรับงานขึ้นรูปโครงสร้างต่าง ๆ
ท่อเหล็กยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับงานทั่วไปได้ เช่น รั้ว , ประตู , งานตกแต่งทั่วไป สามารถร้อยท่อไฟและกลบลงดิน เพื่อให้มีความสวยงามของเนื้องาน
ทุกขนาดของท่อเหล็ก สามารถนำไปชุบกัลวาไนซ์และสังกะสีได้ เพื่อให้เหล็กมีความคงทนแข็งแรง และป้องกันสนิมได้ดี
เหล็กท่อเหมาะสำหรังงานที่รองรับน้ำหนักไม่มาก นอกจากนี้ท่อเหล็กยังสามารถทำท่อลม และท่อน้ำมันได้อีกด้วย
การผลิตท่อเหล็ก กระบวนการผลิตเหล็กเป็นอย่างไร ?
กระบวนการผลิตท่อเหล็กและเหล็กกล้า การผลิตของท่อเหล็กกล้านั้นสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท คือ ท่อแบบมีตะเข็บ (Welded pipe) และ ท่อแบบไม่มีตะเข็บ (Seamless pipe)
ท่อแบบมีตะเข็บ หรือ ท่อเชื่อมตะเข็บ (Welded pipe)
ท่อชนิดนี้จะเกิดจากกระบวนการนำแผ่นเหล็กมาม้วนและเชื่อม ซึ่งวิธีการม้วนนั้นจะม้วนตามแนวยาว โดยจะแบ่งเป็น 3 รูปแบบ ดังนี้
ERW (Electric Resistance Welding)
คือการคลี่เหล็กออกมาม้วน แล้วค่อยม้วนแผ่นเหล็กให้เป็นรูปทรงกระบอกขึ้น การทำแบบนี้จะไม่ใช้ความร้อนจะทำผ่านลูกรีดแทน ความต้านทานต่อกระแสไฟฟ้าจะทำให้ขอบเหล็กมีความร้อนและหลอมละลาย จากนั้นจึงทำการอัดตะเข็บให้ติดกัน ซึ่งจะทำให้ท่อที่ผลิตด้วยวิธีนี้มีตะเข็บที่ตรง
BW (Butt Welding) หรือ CBW (Continuous Butt Welding)
เป็นการเชื่อมต่อตะเข็บโดยใช้แรงอัด โดยการคลี่แผ่นออกจากคอยล์ และนำแผ่นเหล็กไปผ่านเตาเพื่อให้แผ่นเหล็กนั้นได้รับความร้อนทั่วทั้งแผ่น เมื่อแผ่นเหล็กร้อนก็จะค่อย ๆ นำมาม้วนในรูปกระบอก โดยผ่านลูกรีดหลายแท่น จากนั้นอัดตะเข็บให้ติดกัน ซึ่งท่อที่ผลิตด้วยวิธีนี้ก็จะมีตะเข็บที่ตรงเช่นเดียวกับ ERW (Electric Resistance Welding)
EFW (Electric Fusion Welding)
การผลิตท่อเหล็กด้วยวิธีนี้ เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าในการอาร์ค (การอาร์ค คือ การเชื่อมโลหะโดยใช้กระแสไฟฟ้าเป็นแหล่งกำเนิด) บริเวณที่เป็นแนวเชื่อมให้หลอมละลายติดกัน ซึ่งอาจจะใช้ลวดเชื่อมหรือไม่ได้ใช้ก็ได้ การทำวิธีนี้จะเป็นการเชื่อมตะเข็บด้านนอกและด้านใน
ท่อไร้ตะเข็บ (Seamless Pipe)
เป็นเหล็กแท่งที่มีหน้าตัดเป็นรูปวงกลม กระบวนการผลิตจะใช้ความร้อนแท่งเหล็กที่มีอุณหภูมิสูง จากนั้นแท่งเหล็กจะร้อนแดงและถูกหมุนและดึงด้วยลูกรีด และใช้ความร้อนอีกรอบเพื่อปรับให้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อและความหนาได้ตามแบบที่ต้องการ ซึ่งจะเรียกกระบวนการผลิตนี้ว่า ท่อไร้ตะเข็บ
มาตรฐานการผลิตเหล็กท่อกลม
ดูเส้นผ่านศูนย์กลางของเหล็กท่อกลมว่าได้มาตรฐานหรือไม่
ความหนาของตัวเหล็กจะต้องได้มาตรฐาน และดูว่าเหล็กล็อตนั้น ๆ ใช้คอยล์หนาประเภทไหน
ขนาดของความยาวเหล็กก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเหล็กท่อกลมนั้นจะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร
ผิวของเหล็กจะต้องมีความเรียบเกลี้ยง ไม่มีรอยแตก หรือรอยหัก
ลักษณะของตะเข็บของท่อจะต้องมีตะเข็บตามแนวยาว หรือแนวเกลียวเพียง 1 ตะเข็บ
หน้าตัดที่ปลายทั้งสองจะต้องเรียบ
ท่อทุกท่อจะต้องมีเครื่องหมายแจ้งรายละเอียดชัดเจน ไม่ลบเลือน
บ่งบอกกระบวนการทำ เช่น SL คือท่อไร้ตะเข็บ , ERW คือ ท่อมีการเชื่อมตะเข็บแบบต้านทานไฟฟ้า , BW คือ การเชื่อมตะเข็บที่รอยเชื่อมต่อชนกัน และ AW คือ การเชื่อมตะเข็บด้วยวิธีการอาร์ค